บิ๊กแบรนด์พาเหรดบุกไอคอนสยาม เท4พันล.ขึ้นเฟส2-เดินหน้า"โมโนเรล"ขนนักช็อป

Cr. ประชาชาติธุรกิจ 26 มีนาคม 2559

สยามพิวรรธน์-ซีพีเดินเครื่องดีเดย์อวดโฉม โครงการยักษ์ "ไอคอนสยาม" ปลายปี 2560 เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ-ฟื้นค้าปลีกกลับมาคึกคัก เทหมดหน้าตัก เพิ่มงบฯลงทุนใหม่อีก 4,000 ล้าน เปิดที่ดินแปลงใหม่ 5 ไร่ขยายเฟส 2 รองรับดีมานด์ร้านค้า รวมทั้งเดินหน้ารถไฟฟ้าสายสีทองทันที ดึงทราฟฟิก 1.5 แสนคนต่อวัน

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าไอคอนสยาม โครงการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกยักษ์ และโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ ซึ่งเกิดจากการร่วมลงทุนระหว่างบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด บริษัทแมกโนเลียส์ฯ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า50,000 ล้านบาท และมีพื้นที่มหาศาลถึง 750,000 ตร.ม. จะเปิดบริการภายในสิ้นปี 2560 นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อนต่อเนื่องถึงต้นสัปดาห์นี้ นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ได้จัดงานเพื่ออัพเดตความคืบหน้าโครงการต่อผู้บริหารแบรนด์สินค้าระดับโลก และแบรนด์สินค้าของไทยกว่า 1,500 คน เพื่อยืนยันความพร้อม ขณะเดียวกัน ถือเป็นการคิกออฟ-เปิดการขายอย่างเป็นทางการ

นางชฎาทิพแสดงความมั่นใจกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ด้วยว่า พื้นที่ค้าปลีกทั้งในส่วนไอคอนสยามจำนวน 500,000 ตร.ม. และไอคอนลักซ์อีก 25,000 ตร.ม. จะถูกจับจองทั้งหมด เนื่องจากแบรนด์ต่าง ๆ มั่นใจว่านี่คือโลเกชั่นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับอัตราค่าเช่าที่ใกล้เคียงราคาตลาด ขณะที่การก่อสร้างต่าง ๆ มีความคืบหน้าไปมาก ร้านค้าสามารถเข้าตกแต่งพื้นที่ได้ภายในกลางปีหน้า

"ความต้องการซึ่งมากกว่าพื้นที่ที่มีทำให้เราเพิ่มเงินลงทุนอีก 4,000 ล้านบาทรวมเป็น 54,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงการเพิ่มอีก 5 ไร่ บริเวณฝั่งตรงข้ามถนนเจริญนคร เพื่อรองรับร้านค้าทั้งในและต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาเปิดร่วมในศูนย์การค้า"

เชื่อเปิดพร้อม ศก.ฟื้นพอดี

นางชฎาทิพชี้ให้เห็นด้วยว่า ความคืบหน้าของการก่อสร้าง และกำหนดการอวดโฉมอย่างเต็มรูปแบบปลายปี 2560 ท่ามกลางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ถดถอย และกำลังซื้อในประเทศที่ชะลออย่างเห็นได้ชัด จังหวะการเปิดให้บริการของ "ไอคอน สยาม" ย่อมเรียกความเชื่อมั่นและสะท้อนการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีกไทย ที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์มีประวัติการลงทุนสยามพารากอนในช่วงเศรษฐกิจซบ และเปิดบริการในช่วงที่เศรษฐกิจกลับมาคึกคักพอดี ซึ่งไอคอนสยามอยู่ในข่ายนี้เช่นกัน

"การเปิดตัวของ 2 อาณาจักรศูนย์การค้าแห่งไอคอนสยามในครั้งนี้ จะเป็น Game Changing Project ที่เปลี่ยนแลนด์มาร์กการค้าปลีกของกรุงเทพมหานครมาสู่ทำเลใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา"

ทุ่มทุนสร้างทันทีโมโนเรล

นางชฎาทิพกล่าวอีกว่า โครงการไอคอนสยามได้เตรียมลงทุนก่อสร้างเส้นทางคมนาคมระบบขนส่งมวลชนรอง (Feeder Line) โครงการรถไฟฟ้าสายสีทองบนถนนเจริญนคร เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว สีแดง และสีม่วงเข้าด้วยกัน โดยที่ขณะนี้ได้สั่งซื้อตัวรถและอุปกรณ์ทั้งหมด เพื่อก่อสร้างเสร็จให้ทันปลายปี 2560 ซึ่งที่ผ่านมาโครงการได้ผ่านการทำอีไอเอ และประชาพิจารณ์ รวมถึงผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) แล้ว

"ตอนนี้จะเป็นสเต็ปของศูนย์การค้าแล้ว หลังจากที่เราได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมหรู แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ฯ และเรสซิเดนซ์ แอท แมนดารินฯ และที่ดินแปลงใหม่ 5 ไร่ที่เข้ามาเสริมเพื่อรองรับร้านค้าที่เข้ามาเปิด ตอนนี้เราและร้านค้าแบรนด์สินค้าคุยกันครบแล้วละว่า ใครจะมาแล้วลงตรงไหนอย่างไร แบรนด์ไทย-เทศทุกคนมากับเรา เพราะทำเลตรงนี้ไม่เพียงเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของค้าปลีกแต่มันยังเป็นเทรนด์ศูนย์การค้าทั่วโลกที่ไปเปิดริมน้ำ"

"ห้างริมน้ำ" เทรนด์ทั่วโลก

หัวเรือใหญ่ไอคอนสยามขยายความว่า ทำเลริมน้ำได้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของศูนย์การค้าทั่วโลก เห็นได้จากภาพการไปลงทุนของบรรดาผู้ประกอบการค้าปลีก อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ยึดทำเลริมน้ำย่านสะพานปลาเก่ามาแปลงโฉมเป็นศูนย์การค้าทันสมัย รวมถึงที่ประเทศอังกฤษกลุ่มทุนค้าปลีกต่างเข้ามายึดทำเลสาขาริมแม่น้ำเทมส์ และเมืองไทยโครงการไอคอนสยาม จะกลายเป็นสัญลักษณ์และแลนด์มาร์กริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยศูนย์การค้าขนาด 525,000 ตร.ม. แบ่งเป็น 2 อาคารคือ ไอคอนสยาม พื้นที่ 500,000 ตร.ม. และไอคอนลักซ์พื้นที่ 25,000 ตร.ม.

นอกจากนี้ เตรียมพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดระยะทางยาว 10 กิโลเมตร เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก (New Global Destination) โดยรวมโบราณสถานทางประวัติศาสตร์กว่า 20 แห่ง โรงแรมระดับ 3-5 ดาวกว่า 50 แห่ง รวมห้องพัก 10,000 ห้อง รวมถึงโครงการที่พักอาศัยริมน้ำและฝั่งธนบุรีที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันกว่า 200 โครงการ

ซึ่งไอคอนสยามจะมีพื้นที่ River Park กว่า 10,000 ตร.ม. สำหรับจัดกิจกรรมรองรับการจัดงานระดับชาติและการแสดงโชว์ระดับโลก โดยจะโชว์ระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง ไฟ และมัลติมีเดีย (Multi-Media Wa-ter-and-Fire Feature) มูลค่า 400 ล้านบาท ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 400 เมตร

"ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ศูนย์การค้าได้เสนอคอนเซ็ปต์ให้กับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ ๆ ทั่วโลก ต่างให้ความมั่นใจและแสดงความจำนงที่จะจับจองพื้นที่กันมากมาย เพื่อที่จะสร้าง Iconic Flagship Store ขนาด 2,000-3,000 ตร.ม. จะกลายเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมเปิดอวดโฉม ปลายปีหน้า"

ระดม "แม่เหล็ก" ดูดทราฟฟิก

นอกเหนือจากการลงทุนระบบขนส่งรถไฟฟ้าสายสีทองและสร้างท่าเทียบเรือ 4 ท่า เพื่อสร้างความสะดวกดึงลูกค้าเฉลี่ย 1.5 แสนคนต่อวันแล้วนั้น จะมี "ไอคอนลักซ์"รวมร้านค้าหรูหราระดับโลกที่เข้ามาเปิดในรูปแบบ Global Iconic Store, ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม (ICONSIAM Heritage Museum) พิพิธภัณฑ์ขนาด 8,000 ตร.ม. พร้อมทั้งมีนิทรรศการเคลื่อนที่ (Touring Exhibitions) รวมถึงดึงเอา Masterpieces จากทั่วโลกผลัดเปลี่ยนกันไป

ศูนย์การประชุม (World Class Auditorium) ขนาด 3,000 ที่นั่ง รองรับการจัดงานประชุมและจัดแสดงโชว์ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เพื่อให้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ และโรงภาพยนตร์ขนาด 10,000 ตร.ม. ห้างสรรพสินค้าทาคาชิมาย่าจากญี่ปุ่นขนาด 35,000 ตร.ม. เช่นเดียวกับสินค้าและบริการกว่า 500 ร้านค้าจากทุกมุมโลก ซึ่งกว่า 20% ไม่เคยเปิดให้บริการในไทย และพื้นที่ 8,000 ตร.ม.

สำหรับ Venice of The East รวมสินค้าสุดยอดแบรนด์ไทยของฝากจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศมารองรับคนไทยและนักท่องเที่ยว