อสังหาฯมึนตึ้บ ตลาดโค้งท้ายปี 58 เศรษฐกิจไม่เป็นใจ นายกส.อาคารชุดไทย ชี้สถานการณ์ไม่เหมาะเปิดตัวคอนโดฯใหม่ แนะผู้ประกอบการดูแลกระแสเงินสด พลิกกลยุทธ์เน้นส่งมอบ เพื่อยอดรับรู้รายได้ทั่วประเทศ 2-3 แสนล้าน วอนรัฐเร่งโด๊ปมาตรการกระตุ้นซื้อ แบบเร็ว แรง และครอบคลุม เหตุเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านโกลเด้นแลนด์ เผยแบงก์เข้มหนัก ปรับกลยุทธ์กวาดยอดขายใหม่ คาดรับรู้รายได้ตามเป้า 7 พันล้านบาท
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 2558 ว่า ยังคงต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การส่งออกไม่เป็นไปตามเป้า ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และที่สำคัญคือหนี้ภาคครัวเรือนยังสูง ปัจจุบันอยู่ที่ 86% ต่อจีดีพี เพิ่มจาก 10 ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 75% ต่อจีดีพี ปัจจัยเหล่านี้ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี
“สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงในขณะนี้คือ การรักษาสภาพคล่องของบริษัทให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของกระแสเงินสด ตลาดในช่วงนี้ไม่เหมาะที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากไม่มีปัจจัยใดๆมาหนุน มาช่วยกระตุ้นตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งปีนี้เป็นปีของการโอน และการขายของเก่าที่มีอยู่ ส่งผลให้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีจะเห็นกลยุทธ์การตลาดจากผู้ประกอบการเพื่อเร่งโอนเพิ่มมากขึ้น นอกจากผู้ประกอบการที่จะต้องช่วยเหลือตัวเองแล้ว ก็อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแล เนื่องจากธุรกิจอสังหาฯสามารถช่วยกระตุ้นห่วงโซ่เศรษฐกิจภายในประเทศได้เป็นอย่างดี เพราะใช้วัตถุดิบภายในประเทศกว่า 90% โดยธุรกิจอสังหาฯมีมูลค่าตลาดเฉลี่ยต่อปีถึง 5 แสนล้านบาท คิดเป็น 12-13% ของจีดีพี ซึ่งมาตรการที่ออกมานั้นจะต้องมีความเร็ว แรง และรวมทั้งครอบคลุมในทุกส่วนด้วย”
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังปี 2558 ตลาดมีสินค้ารอโอนทั้งในส่วนของโครงการแนวราบและแนวสูงคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2-3 แสนล้านบาท โดยอยู่ในพื้นที่กทม.-ปริมณฑลจำนวน 1.9 แสนล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 1.2 แสนล้านบาท และเป็นโครงการแนวราบจำนวน 7 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นโครงการในต่างจังหวัด
“ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องเร่งเดินหน้าผลักดันยอดโอนให้เป็นไปตามเป้า ในส่วนของบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า ยอดโอนจะเป็นไปตามเป้า เนื่องจากโครงการที่จะโอนในปีนี้เป็นสินค้าที่ขายเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมูลค่าในปัจจุบันปรับเพิ่มสูงขึ้น 20-30% จึงมั่นใจว่าลูกค้าจะไม่ทิ้งโอนอย่างแน่นอน” นายประเสริฐ กล่าว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thansettakij.com/2015/09/09/10328
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3086 วันที่ 10-12 กันยายน พ.ศ. 2558