น่าสนใจไม่น้อยกับปฏิบัติการสลับปรับขั้วบิ๊กกระทรวงคมนาคม
จากอดีตนายทหารทัพฟ้า "บิ๊กจิน-พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" ขยับเบอร์รอง"อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" นั่งควบ 2 เก้าอี้" รัฐมนตรีว่าการ-เลขาฯสภาพัฒน์" หวังลดภาพนายทหารคุมกระทรวงเศรษฐกิจ สร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนไทย-เทศ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่ต้องอาศัยการเจรจาอย่างแก้ปมธงแดง ICAO
ควบคู่กับ "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" อดีตบิ๊กไปรษณีย์ไทยและประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ "บิ๊ก คสช." ส่งมา มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดและการเงิน น่าจะมาเสริมทัพตีฆ้องการลงทุนโครงการใหญ่คมนาคมคึกคักยิ่งขึ้นหลังซบเซามานาน โดยเฉพาะงานของรถไฟ ทั้งการก่อสร้าง-บริหารพอร์ตที่ดิน สร้างรายได้ปลดแอกภาระหนี้แสนล้าน
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเมื่อโจทย์ใหญ่คือฟื้นความเชื่อมั่นการลงทุน จึงเป็นที่จับตาท่าทีสองบิ๊กจะ "ปะ-ฉะ-ดะ" ขับเคลื่อนงานใหญ่คมนาคมให้ลื่นไหลชนิดพลิกหน้ามือได้แค่ไหน
แหล่งข่าววงในกระทรวงคมนาคมบอกด้วยว่า หลังมีข่าวจะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีคมนาคมคนใหม่ เย็นวันเดียวกันมีการประชุมนอกรอบเตรียมการหารือร่วมกับญี่ปุ่น เรื่องโครงการรถไฟไทย-ญี่ปุ่น จะปรับจุดเริ่มต้นรถไฟไทย-ญี่ปุ่น คือ รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 672 กม. จากเดิม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง จะใช้เชียงรากน้อยเป็นสถานีกลางของรถไฟไทย-จีน-ญี่ปุ่น เหมือนสถานีกลางบางซื่อ หลังพื้นที่มีปัญหาเขตทางไม่พอวางรางและติดรื้อท่อก๊าซ ปตท.
ปรากฎว่าโผล่าสุดจะกลับมาใช้สถานีกลางบางซื่อเป็นจุดเริ่มต้นรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่เหมือนเดิมโดยขอให้ญี่ปุ่นใช้ระบบอาณัติสัญญาณมาตรฐานกลางจากยุโรปช่วงกรุงเทพฯ-ภาชี เพื่อให้ระบบรถไฟประเทศอื่นวิ่งบริการได้ แน่นอนว่ารวมถึงรถไฟไทย-จีนด้วย หลังญี่ปุ่นให้ใช้เฉพาะระบบชินคันเซ็นเท่านั้น
"คาดการณ์จากบุคลิกเจ้ากระทรวงคนใหม่ คงเน้นสร้างรถไฟทางคู่ 1 เมตร ส่วนรถไฟรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เช่น รถไฟไทย-จีน ก็ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายไทย และขยับเวลาตอกเข็มออกไปจากเดิมตั้งเป้าเร็วสุด 23 ต.ค. หรืออย่างช้า ธ.ค. 58 ส่วนไฮสปีดเทรนร่วมกับญี่ปุ่นจะให้ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบแชร์แทร็กที่สถานีกลางบางซื่อ" แหล่งข่าวกล่าวย้ำ
คงไม่นานเกินรอ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์งานของคมนาคม ภายใต้ดรีมทีมชุดใหม่
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1440579492
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 26 สิงหาคม 2558