ปี 59 บ้านแนวราบมาแรง ขาใหญ่อสังหาฯ เบนเข็มลุยทดแทนคอนโดฯ

Cr. ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ 30 พฤศจิกายน 2558

สมาคมอาคารชุดไทย ยันปี 59 ตลาดคอนโดฯทรงตัวต่อเนื่อง เผยตลาดแนวราบน่าจับตา เหตุจำนวนคอนโดฯ ค้างเติ่งอยู่ในตลาดค่อนข้างมาก ด้านขาใหญ่ในตลาดอสังหาฯ เตรียมเบนเข็มลุยพัฒนาแนวราบรับตลาดคอนโดฯนิ่ง ศุภาลัย เล็งเพิ่มสัดส่วนแนวราบเป็น 50% ส่วนพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มั่นใจแนวราบยังสดใส

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2559 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตจากปี 2558 ประมาณ 5% หรือมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 3.5 แสนล้านบาท โดยกลุ่มของคอนโดมิเนียมจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปี 2558 คือที่ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท คิดเป็น 49% ของตลาดรวมปี 2559 เหตุที่ตลาดคอนโดมิเนียมไม่มีการเติบโตเนื่องจากปี 2558 มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง สืบเนื่องมาจากจำนวนคอนโดมิเนียมที่ทยอยส่งมอบตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ประกอบกับมีจำนวนสินค้าย้อนกลับเข้าสู่ตลาด ซึ่งมาจากกลุ่มที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน กลุ่มเก็งกำไร กลุ่มนักลงทุน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของจำนวนสินค้าที่ต้องโอนตั้งแต่ปลายปี 2556 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2559 ทำให้กลับมาเป็นสินค้าเก่าในตลาดอีกครั้งหนึ่ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น

โดยคาดว่าตลาดที่จะมีอัตราการเติบโตมากที่สุดในปี 2559 คือ ตลาดแนวราบ โดยเฉพาะกลุ่มทาวน์เฮาส์ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 14% หรือมีมูลค่าตลาดที่ 8 หมื่นล้านบาทจาก ปี 2558 ที่คาดว่าทั้งปีจะจบที่ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มระดับราคาที่จะมีอัตราการเติบโตชัดเจนคือ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท และระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทอยู่ในเมือง สำหรับอัตราการเติบโตของกลุ่มทาวน์เฮาส์ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทอยู่ในเมือง มีปัจจัยหนุนมาจากคอนโดมิเนียมในเมืองมีราคาขายสูงถึง 2-3 แสนบาทต่อตร.ม. เป็นช่องว่างให้ตลาดทาวน์เฮาส์มีอัตราการเติบโต โดยเฉพาะในซอยที่ไม่สามารถขึ้นคอนโดมิเนียมได้ ก่อให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์

ด้าน นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่าสำหรับแผนการดำเนินงานโครงการแนวราบในปี 2559 นั้น บริษัทจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% จากเดิมในปี 2558 มีสัดส่วนอยู่ที่ 42% ของพอร์ตสินค้า ด้วยการขยายตลาดโดยกระจายโครงการในทุกทำเลที่มีศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มสินค้าแนวราบในกทม. – ปริมณฑลประมาณ 6% ขณะที่ในต่างจังหวัดมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 30%

ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวโครงการแนวราบไม่ต่ำกว่า 20 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นโครงการที่จะพัฒนาในพื้นที่กทม. และปริมณฑลกว่า 60% โดยตามแผนยังคงมุ่งเน้นพัฒนาบ้านในทุกประเภททั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือทาวน์เฮาส์ ในราคาระดับกลางเฉลี่ยที่ประมาณ 4 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในปีหน้าทางบริษัทมีแผนจะซื้อที่ดินเพิ่มคาดว่าจะใช้งบไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านบาท ปัจจุบันมีแลนด์แบงก์อยู่ประมาณ 40 แปลง มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท สามารถรองรับการพัฒนาได้ในอีก 4 ปีครึ่ง และในจำนวนนี้เป็นที่ดินรอการพัฒนาโครงการแนวราบมูลค่ากว่า 3-4 หมื่นล้านบาท

สำหรับปี 2558 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 19 โครงการ จำนวนกว่า 4.7 พันหน่วย มูลค่ารวมประมาณ 1.82 หมื่นล้านบาท โดยลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหัวเมือง ทั้งในจังหวัดที่มีการพัฒนาโครงการอยู่แล้ว ล่าสุดขยายไปสู่จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันมีโครงการแนวราบที่อยู่ระหว่างการขาย 51โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นมูลค่าสินค้าแนวราบคงเหลือ 3.26 หมื่นล้านบาท

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่า แม้ว่าในปี 2558 จะมีปัญหาเรื่องของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่โครงการแนวราบก็ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มผู้ซื้อเป็นกลุ่มที่ต้องการอยู่อาศัยจริงไม่เหมือนคอนโดมิเนียมที่มีกลุ่มเก็งกำไรและนักลงทุน ปัจจุบันบริษัทมีโครงการแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 40 โครงการ ในจำนวนนี้สามารถรับรู้รายได้ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2559 จำนวน 6 พันล้านบาท สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2559 บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่อง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thansettakij.com/2015/11/30/19815
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,109
วันที่ 29 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558