Cr. ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ 22 ธันวาคม 2558
นายกสมาคมนายหน้าอสังหาฯ ได้อานิสงส์มาตรการกระตุ้นอสังหาฯภาครัฐ ช่วยตลาดบ้านมือสอง ฟื้น ชี้ปี 59 ราคาปรับขึ้น 5-10% ตามราคาประเมินที่ดินใหม่ “อีอาร์เอ” ย้ำตลาดปี 58 ทรงตัวเหตุภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบยอดโอนไตรมาส 1/59 วูบหายกว่าครึ่ง ขณะตลาดต่างจังหวัดยังโตต่อเนื่อง ลุ้นปีหน้าเศรษฐกิจฟื้น ดึงธุรกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะคอนโดฯมือสองย่านสุขุมวิท เพลินจิต ราคาปรับขึ้นอีก 8-10%
นายสมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์เบสท์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาฯจากภาครัฐ ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ประกอบกับส่งผลให้ตลาดบ้านมือสองในช่วง 2 เดือนสุดท้าย (พ.ย.-ธ.ค.) ปี 2558 มีอัตราการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ซบเซามาตลอดในช่วงก่อนหน้า ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ณ สิ้นปี 2558 ตลาดจะมีอัตราการเติบโต 5-10% จากเดิมที่เคยตั้งไว้เมื่อต้นปีว่าตลาดจะเติบโตที่ 5% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้การส่งออกอาจไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดการณ์ไว้ กระทบกับเศรษฐกิจภายในประเทศ ประกอบกับปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคไม่มีความเชื่อมั่นและไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย
“ภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อตลาดบ้านมือสอง เพราะเมื่อผู้บริโภคเกิดความไม่เชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจ ก็จะไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย แม้ว่าจะมีกำลังซื้ออยู่ก็ตาม เช่นเดียวกับตลาดบ้านมือหนึ่ง การที่รัฐออกมาตรการมาช่วยกระตุ้นตลาดช่วงปลายปี ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากราคาประเมินที่ดินจะมีการปรับขึ้นในปีหน้า ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในช่วงเดือนนี้จะมียอดโอนบ้านมือสอง เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทมียอดโอนเพิ่มขึ้นประมาณ 5%” นายสมศักดิ์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดบ้านมือสองในปี 2559 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าปี 2558 สืบเนื่องจากมีปัจจัยเสริมด้านการลงทุนโครงการต่างๆของภาครัฐ ที่จะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น ภาวะเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน ขณะที่ราคาบ้านมือสอง ก็จะปรับขึ้นอีกประมาณ 5-10% ตามราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวด้านราคาที่ชัดเจนที่สุดคือ ย่านในกลางธุรกิจอย่าง สาทร สีลม ที่ปัจจุบันราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น 2 ล้านบาทต่อตร.ว. บ้านในพื้นที่ดังกล่าวขนาด 50 ตร.ว. จึงมีราคาขายอยู่ที่ประมาณกว่า 20 ล้านบาท
ด้าน นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานบริหาร บริษัท อีอาร์เอ แฟรนไชส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทบริหารแฟรนไชส์บริการซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปี 2558 ถือเป็นปีที่ตลาดอยู่ในภาวะทรงตัว แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือตลาดในปี 2559 ที่พบว่า สต๊อกรอโอนของบริษัทในไตรมาส 1/2559 ลดลง เหลือเพียง 200 รายการ จากปกติจะอยู่ที่ประมาณ 500-700 รายการ ซึ่งเป็นยอดที่มาจากการขายในช่วงปลายปี 2558
“สต๊อกรอโอนที่ลดลง สืบเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ลูกค้าในตลาดบนระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท เกิดความไม่เชื่อมั่น แม้ว่าจะมีกำลังซื้อ ขณะที่ตลาดล่างระดับราคา 2 ล้านบาท เกิดการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดเจน เพราะไม่มีกำลังซื้อ อย่างไรก็ตามคงต้องหวังว่าในปีหน้าเศรษฐกิจจะดีขึ้น มิเช่นนั้นจะกระทบต่อยอดโอนในไตรมาสถัดไปอย่างแน่นอน”นายวรเดช กล่าว
สำหรับตลาดบ้านมือสองในต่างจังหวัด พบว่า ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาพตลาดอสังหาฯโดยรวมจะไม่ดีก็ตาม เนื่องจากบริษัทปรับแผนการทำการตลาดใหม่ โดยมุ่งเน้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด ด้วยการแบ่งแผนงานการตลาดออกเป็น 3 ระดับคือ 1.จัดส่งพนักงานไปทำตลาดก่อน 2 เดือน เพื่อให้ลูกค้ารู้จัก 2.จัดกิจกรรมเทรดโชว์ และ3.ให้พนักงานปิดการขายอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการดำเนินงานตามแผนดังกล่าวได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
ในส่วนของราคาบ้านมือสองในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล คาดว่าปี 2559 ในกลุ่มคอนโดมิเนียมกลางเมืองอย่าง สุขุมวิท เพลินจิต จะมีการปรับตัวสูงขึ้น 8-10% เหตุราคาที่ดินในบริเวณดังกล่าวมีราคาสูงขึ้นมาก ขณะที่บ้านเดี่ยวมือสอง ขนาดพื้นที่มากกว่า 300 ตร.ว. จะมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 500-600 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้สนใจและอยู่ระหว่างเจรจาต่อรอง 2-3 แปลง
ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนสินค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 70% ภาคใต้ 20% ที่เหลือ 10% กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 32% ทาวน์เฮาส์ 35% ที่ดินเปล่า 10% คอนโดมิเนียมและอาคารพาณิชย์ 20%
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,115 วันที่ 20 – 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558