Cr. ฐานเศรษฐกิจ 3 ธันวาคม 2558
ร.ฟ.ท.เร่งปิดจ็อบมาร์เก็ตซาวดิ้งสถานีกลางบางซื่อ เผยรมช.ออมสินไล่บี้พร้อมให้ดึงแปลงกม.11 มารวมลงทุนด้วย วงในแพลมทุนญี่ปุ่นสนใจลงทุนพัฒนาทั้งโครงการ ขณะที่ซีพี แลนด์ รับทำเลมีศักยภาพในอนาคต ขอรอดูความชัดเจน ด้านรายงานผลการศึกษายังคงระยะเช่าไว้ 30 ปีต่ออีก 30 ปีเมื่อครบสัญญา คาดใช้งบก่อสร้างราว 4.7 หมื่นล้าน
แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ บริเวณสถานีกลางบางซื่อ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟว่า ขณะนี้บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาโครงการได้ส่งร่างผลการศึกษาโครงการ พบว่า ผู้ประกอบการชั้นนำในส่วนกลางซึ่งมีธุรกิจศูนย์ค้าปลีก อาคารสำนักงาน ศูนย์การประชุม ที่อยู่อาศัย และผู้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่ให้ความสนใจจะพัฒนาธุรกิจในที่ดินแปลง A และ B ขณะที่ผู้ประกอบการศูนย์ประชุมให้ความสนใจแปลง B และ C และผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย มองว่าที่ดินแปลง B และ D (ใกล้ตลาดเจเจ มอลล์) เหมาะกับการพัฒนาโครงการ ส่วนระยะเวลาการเช่าที่เอกชนเสนอแนะคือ 90 ปี นั้น ตามร่างผลการศึกษาโครงการพบว่ายังคงระยะ 30 ปีก่อนรับสิทธิ์ต่ออีก 30 ปี เมื่อครบสัญญา
ทั้งนี้ รวมราคาประเมินเฉพาะค่าก่อสร้างของอาคารในพื้นที่ทั้ง 3 แปลง คือ A-B-C มีมูลค่ารวมประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท โดยประมาณการรายรับ 5.3 แสนล้านบาท/30 ปี มีกำไรสุทธิ 1.67 แสนล้านบาท รวมพื้นที่ 3 แปลง 1.78 ล้านตร.ม.
“การสรุปผลการศึกษาและรับฟังความเห็นนักลงทุน โครงการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อนอกเหนือจากแปลง A/ B/ C และ D แล้ว ล่าสุด นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมยังให้นำที่ดินแปลงกม.11 เข้ามารวมอยู่ในการเชิญชวนนักลงทุนเอาไว้ด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำเสนอบอร์ดร.ฟ.ท.ได้ในเดือนมกราคม 2559 นี้ ”
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า วันที่ 2 ธันวาคมนี้ กระทรวงคมนาคม และร.ฟ.ท. ได้เปิดแถลงผลสรุปการเปิดรับฟังความเห็นนักลงทุน หลังจากที่ได้เปิดรับฟังความเห็นครบ 4 ภาค คือ ภาคเหนือที่ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จังหวัดขอนแก่น ภาคตะวันออกที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และภาคใต้ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายสราวุธ เบญจกุล ประธานคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. และนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.แสดงวิสัยทัศน์โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนพร้อมตอบความชัดเจนในการพัฒนาโครงการ
นอกจากนี้ยังได้กลุ่มนักลงทุนในประเทศจากบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และบริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด(มหาชน) ร่วมเสนอความเห็นพร้อมกับนักลงทุนจากประเทศจีนและญี่ปุ่น หลังจากนี้จะเร่งสรุปเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดร.ฟ.ท. กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้ดำเนินการภายในเดือนธันวาคมนี้เพื่อทันต่อการเปิดใช้บริการสถานีกลางบางซื่อที่ร.ฟ.ท.กำหนดเปิดให้บริการในอีก 2 ปีนี้
“ขณะนี้ทราบว่าแหล่งทุนจากญี่ปุ่นให้ความสนใจพัฒนาทั้งโครงการมากกว่าจะแยกออกเป็นรายแปลงตามที่ร.ฟ.ท.กำหนดไว้ 3-4 แปลงดังกล่าว”
ด้านนายสมเกียรติ เรือนทองดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่ายังเห็นว่าทำเลการพัฒนาโครงการของร.ฟ.ท.มีความโดดเด่น มีศักยภาพในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามต้องขอดูรายละเอียดและความชัดเจนในการพัฒนาโครงการก่อนตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันพัฒนาโครงการ
“ซี.พี.แลนด์มีความสนใจเข้าไปพัฒนาพื้นที่เช่นเดียวกับนักลงทุนรายอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วจะต้องแข่งขันยื่นข้อเสนอให้ร.ฟ.ท.พิจารณา ในเบื้องต้นมุมมองของนักลงทุนยังอยากให้ร.ฟ.ท.ขยายระยะเวลาออกไปให้มากกว่า 30 ปีเพราะถ้าระยะเวลาน้อยไปดูเหมือนว่าจะเป็นการลดขนาดโครงการมากกว่า เม็ดเงินการลงทุนน่าจะน้อยลงตามไปด้วย ควรจะขยายเป็นประมาณ 90 ปีจึงจะคุ้มค่าการลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากเห็นการพัฒนาโครงการที่แสดงออกถึงศักยภาพที่ดี สามารถดึงดูดปัจจัยการลงทุนอื่นๆตามมา แต่โปรเจ็กต์ขนาดใหญ่นี้คงต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะเกิดความคุ้มค่า สิ่งสำคัญต้องทำให้มีธุรกิจที่จะเชื่อมโยงกันได้และมีระบบโครงสร้างทางธุรกิจที่ดีด้วย อาทิ ศูนย์การค้า โรงแรม ที่พักอาศัย ที่ร.ฟ.ท.สามารถใช้เป็นจุดโรดโชว์ได้โดนใจนักลงทุนจริงๆ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,110 วันที่ 3 – 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558