นายแอนดรูว์ กัลแบรนด์สัน หัวหน้าฝ่ายวิจัย บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์) กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา พบว่า อพาร์ตเมนต์หรูในกรุงเทพฯ ค่อยๆ มีจำนวนลดลง โครงการเกิดใหม่มีจำนวนลดลง ในขณะที่อพาร์เมนต์ที่มีอยู่เดิมหลายอาคารได้ถูกปรับเปลี่ยนการใช้ไปเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยเฉพาะเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่มีบริการอำนวยความสะดวกครบสำหรับผู้เช่า สามารถเรียกค่าเช่าได้สูงกว่า อีกทั้งยังสามารถรับผู้เช่าระยะสั้นได้ในกรณีที่ผู้ประกอบการมีการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีอพาร์ตเมนต์บางอาคารที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และเปลี่ยนเป็นคอนโดฯขายกรรมสิทธิ์ขาด
ทั้งนี้ อพาร์ตเมนต์ระดับหรูส่วนใหญ่ จับกลุ่มผู้เช่าชาวต่างชาติที่ต้องการความสะดวกสบายสูง จึงต้องมีที่ตั้งในทำเลชั้นดี แต่ราคาที่ดินในทำเลชั้นดีของกรุงเทพฯ มีการปรับตัวสูงขึ้นไปมาก จนทำให้ผลตอบแทนการลงทุนไม่จูงใจสำหรับการพัฒนาโครงการอพาร์ตเมนต์ใหม่ ในขณะที่การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่หรือการเปลี่ยนอพาร์ตเมนต์มาเป็นคอนโดฯ เพื่อขาย สามารถให้ผลตอบแทนมากกว่าถึงเท่าตัว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้อพาร์ตเมนต์หรูในกรุงเทพฯ มีแนวโน้มมีจำนวนลดลง
ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,064 วันที่ 25 - 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558