แบงก์ชาติเกาะติดอสังหาฯ หวั่นเกิดฟองสบู่ซ้ำรอย เหตุพบสัญญาณคอนโดฯ ราคามากกว่า 5 ล้านบาท ขายดีแบบเทน้ำเทท่า สวนกระแสเศรษฐกิจ เรียกสมาคมอสังหาฯและผู้เกี่ยวข้องหารือ จัดทำดัชนีราคากลางที่อยู่อาศัย เพื่อสะท้อนภาพความเป็นจริงของตลาด สมาคมอาคารชุด ชี้ดีมานด์เทียมในสินค้าระดับสูงน่าห่วง พร้อมเสนอ 2 ตัวแปรสำคัญที่กระทบราคาขาย ด้านผู้ประกอบการเร่งปรับตัวลดเปิดขายโครงการใหม่ คืนเงินโครงการที่ไม่คุ้ม
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปี 2558 ถึงปัจจุบันถูกขับเคลื่อนด้วยสินค้าระดับบนที่มีราคาขายมากกว่า 5 ล้านบาทเป็นหลัก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการหันมาจับลูกค้าในกลุ่มบนที่ยังมีกำลังซื้อ ประกอบกับราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถพัฒนาสินค้าในระดับกลางได้ ส่งผลให้หลายฝ่ายเป็นกังวลว่าอาจจะเกิดปัญหาในอนาคต เนื่องจากราคาสินค้าสวนทางกับกำลังซื้อในปัจจุบัน
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้เชิญสมาคมอสังหาริมทรัพย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังผลงานวิจัยเกี่ยวกับการจัดทำดัชนีราคากลางที่อยู่อาศัยที่ธปท.จัดทำขึ้นใหม่ เพื่อให้ภาคเอกชนร่วมเสนอแนวทางและสะท้อนภาพความเป็นจริงของตลาด
เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกปี 2558 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ถูกขับเคลื่อนโดยสินค้าระดับบนราคาขายมากกว่า 5 ล้านบาท โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นที่น่ากังวลว่ายอดขายจากสินค้าในกลุ่มนี้อาจเป็นดีมานด์เทียมที่เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร เพราะพบตัวเลขลูกค้าที่ซื้อที่ละหลายยูนิตเพิ่มขึ้นเป็น 10-15% จากเดิมที่ไม่ถึง 10% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำประกอบกับตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวน ทำให้ลูกค้าในกลุ่มนี้หันไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แทน ซึ่งหากสภาพเศรษฐกิจไม่สามารถเติบโตล้อไปกับราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ในอีก 2 ปี ข้างหน้าผู้บริโภคในกลุ่มนี้อาจเกิดการทิ้งดาวน์เกิดขึ้น
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลในช่วงครึ่งแรกปี 2558 พบว่า ตลาดคอนโดฯในกทม.-ปริมณฑลมีการเติบโตอย่างมากคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 72% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 คิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 1.01 แสนล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มระดับราคามากกว่า 5 ล้านบาท ที่มีการเปิดตัวอย่างมากกินส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 54% ของตลาดรวม คาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังตลาดคอนโดฯจะชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าตลาดคอนโดฯโดยภาพรวมจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 27% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมที่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ได้รับอานิสงส์มาจากครึ่งแรกปี 2558
อ่านต่อได้ที่ http://www.thansettakij.com/2015/09/17/11305
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3088 วันที่ 17-19 กันยายน พ.ศ. 2558