กูรูอสังหาฯ ชี้ ลดค่าธรรมเนียมโอนบ้าน เอื้อเอกชนมากกว่าปชช.

home

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า หากมาตรการลดค่าโอนและค่าจำนองของรัฐบาลมีผลถึงสิ้นปี 2559 จะพบว่าตัวเลขที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะสร้างเสร็จเฉพาะในปี 2559 จะมีอยู่จำนวน 139,360 หน่วย มาตรการนี้จะมีผลต่อกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ กันไป

โดยห้องชุดจะได้รับอานิสงส์มากที่สุด เพราะในปี 2559 จะมีห้องชุดแล้วเสร็จ 53,918 หน่วย หรือร้อยละ 39 ของอุปทานที่จะแล้วเสร็จทั้งหมด รองลงมาคือทาวน์เฮาส์ 43,144 หน่วย หรือร้อยละ 31 ตามมาด้วยบ้านเดี่ยวถึง 32,022 หน่วยหรือร้อยละ 23 นอกนั้นเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประกอบด้วยบ้านแฝด ตึกแถวและที่ดินจัดสรร

นายโสภณระบุว่า ที่อยู่อาศัยหน่วยหนึ่งมีมูลค่าโดยเฉลี่ยประมาณ 3 ล้านบาท ดังนั้นที่อยู่อาศัย 139,360 หน่วย คิดเป็นเงินรวม 418,080 ล้านบาท หากได้รับส่วนลดจากภาษีและค่าธรรมเนียมโอนร้อยละ 3 คิดเป็นเงินประมาณ 12,542.4 ล้านบาท เงินจำนวนนี้สามารถนำไปสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในราคาเฉลี่ย 4,000 ล้านบาทได้ถึง 3 แห่ง กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่าการลดปลีกย่อยแบบนี้ นอกจากนี้ บริษัทมหาชนบางแห่งมีการลดภาษีและค่าธรรมเนียมโอนให้ลูกค้าโดยไม่รอมาตรการของทางราชการ แสดงว่ามาตรการเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ถูกทางนัก ยิ่งในกรณีบริษัทมหาชน จะเห็นได้ว่ามีกำไรมหาศาล

หากรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหรือโดยเฉพาะช่วยผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลควรจะเน้นการลดภาษีและค่าธรรมเนียมโอนหรือไม่เก็บเลย เฉพาะการซื้อขายบ้านมือสองในระหว่างประชาชนด้วยกันเอง มากกว่าจะไปช่วยเหลือเฉพาะผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน ซึ่งส่วนมากเป็นรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ มีกำไร และสามารถช่วยเหลือตนเองได้

ที่มา มติชนออนไลน์ 4 ตุลาคม 2558