เรือด่วนเจ้าพระยาเล็งปั้นฮับเพื่อการเดินทางแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมโยงรถ- เรือ- ราง รับเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีน้ำเงิน สายสีแดง และสายสีม่วง ชงกรมเจ้าท่าเร่งผลักดันเพื่อความสะดวกด้านการเดินทาง พร้อมทุ่มงบเกือบ 70 ล้านบาท ยกเครื่องท่าเรือ 19 จุดให้เป็นท่าที่ทันสมัยใช้ไอทีรับมือผู้โดยสาร
นายเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทฯมีโครงการจะพัฒนาท่าเรือด่วนในแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นศูนย์กลาง(ฮับ)ของการเดินทาง โดยเชื่อมโยงรูปแบบรถ-เรือ-ราง ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเส้นทางรถไฟฟ้าที่ก่อสร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะนำแผนนี้เสนอไปยังกรมเจ้าท่าเพื่อพิจารณาและสนับสนุนโครงการดังกล่าว
โดยท่าเรือที่สามารถเชื่อมโยงการเดินทางได้มี ท่าเรือสาทร สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว ท่าเรือบางโพ-ท่าเรือราชินี รับกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กำหนดเปิดให้บริการปี 2562 ท่าเรือพระราม 6 รับรถไฟสายสีแดง ยังไม่เปิดให้บริการ และท่าเรือพระนั่งเกล้า รับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่กำหนดเปิดให้บริการในปี 2559 นี้
นอกจากนี้ ยังมีท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้าซึ่งแผนเดิมการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)จะเป็นผู้ดำเนินการ ล่าสุดพบว่างบประมาณที่จะนำไปดำเนินการมีไม่เพียงพอ ดังนั้นบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยาจึงจะยื่นเรื่องขอลงทุนเองเพื่อให้เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ ให้เป็นฮับของการเดินทางเชื่อมโยง ส่วนท่าเรือพระปิ่นเกล้าจะเป็นเพียงสเตชันเนื่องจากไม่มีการเชื่อมโยงทางรถไฟฟ้า
ปลายปีนี้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กับเรือด่วนจะออกแบบแล้วเสร็จเพื่อเตรียมนำไปใช้งานระหว่างท่าเรือนนทบุรีกับท่าเรือสาทร และท่าอื่นๆปัจจุบันมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 3.6 หมื่นคนต่อวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าไป-เย็นกลับประมาณ 2 หมื่นคน อีกทั้งยังมีแผนเตรียมจัดระบบการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาใหม่หากรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการ เพื่อจะรับผู้โดยสารจากท่าเรือปากเกร็ดและท่าเรือพระราม 5 ป้อนให้ท่าเรือพระนั่งเกล้า ส่วนท่าเรือสะพานสาทรจะให้บริการในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์และท่าเรือต่างๆที่อยู่ในโซนกลางจะป้อนให้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยจะเห็นการจัดช่วงการเดินเรือได้ในปี 2559 นี้เป็นต้นไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thansettakij.com/2015/08/26/8901
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3082 วันที่ 27 – 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558