ตลาดคอนโดมิเนียมที่เฟื่องฟูอยู่เวลานี้ ถูกขับเคลื่อนจากความต้องการ 2 ส่วนหลัก คือ
1. ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง
2. ซื้อเพื่อ ลงทุน หรือ เก็งกำไร
โดยประมาณว่า กลุ่มผู้ซื้ออย่างหลังมีอยู่ประมาณ 30 % ของยอดจองซื้อรวม ทั้งนี้ภาวะเก็งกำไรในตลาดคอนโดมิเนียมไล่กวดความเฟื่องฟูของคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้ามาโดยตลอด อาจกล่าวได้ว่า ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว คือ ตัวกระตุ้นตลาดคอนโดมิเนียมให้ดูคึกคักเกินความเป็นจริง กระทั่งมีกระแสกังวลภาวะฟองสบู่ในตลาดคอนโดมิเนียมออกมาเป็นระยะๆ
กระแสการลงทุนหรือเก็งกำไรในตลาดคอนโดมิเนียมดังที่กล่าวมานั้น มีแรงหนุน จาก 5 ปัจจัยหลัก (ดูตารางประกอบ) โดยในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้ากลางเมือง และส่วนต่อขยายเติบโตอย่างน่าตื่นใจ โดยปี 2551 คอนโดมิเนียมเข้าตลาด 15,000 หน่วย ก่อนเพิ่มเป็น 50,000 หน่วยต่อปีโดยเฉลี่ยในปัจจุบัน การเติบโตของตลาดทำให้ราคาคอนโดมิเนียมขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีตลาดเช่ารองรับโดยเฉพาะตลาดต่างชาติ เช่น ตลาดเช่าเริ่มขยายจากย่านสุขุมวิทเข้าไปสู่ย่านอ่อนนุช ทำให้ราคาเช่าบริเวณดังกล่าวปรับสูงขึ้น 13 % ( ทีมา: พลัส พร็อพเพอร์ตี้) 4.การก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่ระยะเวลาก่อสร้างต้องใช้เวลา 2 ปีโดยเฉลี่ย ทำให้มีช่วงเวลาเปลี่ยนมือ (ขายใบจอง หรือ ขายดาวน์) ง่ายกว่าอสังหาริมทรัพย์แนวราบ
อ่านต่อได้ที่ http://www.thansettakij.com/2015/08/15/7426
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3079 วันที่ 16 – 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558