คอนโดฯหัวหิน-ชะอำยอดฉลุย LPNผุดเพิ่ม3โครงการ2พันล้าน

Cr. ประชาชาติธุรกิจ 29 มีนาคม 2559

"ลุมพินี พาร์คบีช ชะอำ" รีสอร์ตคอนโดฯแห่งแรกแอล.พี.เอ็น. ใกล้ปิดการขาย ลุยอีก 3 โครงการรวด ทำเลชะอำ-หัวหิน 1,200 ยูนิต มั่นใจจุดแข็งแบรนด์ ทำเล ราคาเป็นต่อ ไม่หวั่นโอเวอร์ซัพพลาย

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้คอนโดมิเนียม ลุมพินี พาร์คบีช ชะอำ จำนวน 413 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 98% หลังเปิดขายเมื่อต้นปี 2558 และทยอยโอนกรรมสิทธิ์แล้วตั้งแต่ 15 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา เชื่อว่าจะสามารถโอนห้องชุดทั้งหมดได้ภายในไตรมาส 2 นี้

"โครงการนี้ถือเป็นไฮไลต์ของ แอล.พี.เอ็น.ตั้งแต่ปี′58 เพราะเป็นโครงการแรกที่เราออกแบบและให้บริการเหมือนรีสอร์ต และเปิดตัวในช่วงที่ตลาดชะอำ-หัวหิน มีปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย แต่เรามั่นใจว่าโครงการมีจุดแข็ง คือ แบรนด์ แอล.พี.เอ็น. ทำเลติดหาด และราคาต่ำกว่าโครงการใกล้เคียง 30% ทำให้มียอดขายที่ดี เป็นสิ่งพิสูจน์ว่าบริษัทสามารถพัฒนารีสอร์ตคอนโดฯได้" นายโอภาสกล่าวและว่า

ดังนั้นช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่าจะเปิดโครงการชายทะเล ทำเลชะอำ-หัวหินอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1.ลุมพินี ซีวิว ชะอำ ที่ดิน 7 ไร่ จำนวน 1,000 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาท ทำเลด้านหลังลุมพินี พาร์คบีช ชะอำ คาดออกแบบเป็นคอนโดฯสูงไม่เกิน 20 ชั้น 2 อาคาร ราคาเริ่มไม่เกิน 1 ล้านบาท

2.ลุมพินี พาร์คบีช ชะอำ 2 ทำเลติดหาดชะอำใต้เช่นกัน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท แปลงที่ดินขนาด 4 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดฯสูง 4 ชั้น 4-5 อาคาร จำนวน 100 กว่ายูนิต เน้นห้องแบบ 2 ห้องนอน ราคาเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่อยูนิต 3.คอนโดฯลุมพินี หัวหิน ในหัวหินซอย 7 มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท ที่ดินขนาด 5 ไร่ เป็นอาคารโลว์ไรส์สูง 4-5 ชั้น 3-4 อาคาร รวม 100 กว่ายูนิต ราคาเฉลี่ย 2 ล้านบาท

นายโอภาสกล่าวว่า ภาพรวมทำเลชะอำ-หัวหินยังโอเวอร์ซัพพลาย มีซัพพลายเหลือขายไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นยูนิต อาจใช้เวลากว่า 5 ปีในการดูดซับ แต่เซ็กเมนต์ ทำเล และจุดขายแต่ละโครงการต่างกันมาก จากความสำเร็จของโครงการแรกจึงเชื่อว่าผู้ซื้อจะตอบรับโครงการต่อไป