"สีลม"แชมป์ที่แพง ตร.ว.ละล้าน บางละมุงพุ่ง2แสน ทั่วประเทศขั้นเฉลี่ย15%

Silom

เมื่อวันที่ 27 กันยายน นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้จัดทำบัญชีราคาประเมินรอบใหม่ใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อประกาศใช้เป็นเวลา 4 ปี คือตั้งแต่ 1 มกราคม 2559 ถึงสิ้นปี 2562 โดยราคาที่ดินเฉลี่ยทั่วประเทศปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ส่วนที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 75% หากแปลงที่ดินอยู่ติดสถานีเพิ่มขึ้นประมาณ 100-150% สำหรับที่ดินมีราคาซื้อขายเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นมาก คือตามแนวเขตเศรษฐกิจพิเศษ 6 จังหวัด มีราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากการเก็งกำไร โดยที่ดินที่มีราคาประเมินแพงที่สุดยังเป็นพื้นที่ย่านสีลม มีราคาประเมินตารางวาละ 1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรอบก่อนที่ราคาประเมินอยู่ที่ 8.5 แสนบาท รองลงมาคือราชดำริ มีราคาประเมิน 9 แสนบาท จากรอบก่อน 6-7 แสนบาท

ศึกษาปรับราคารายปีเหมือนคอนโด

นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า กำลังพิจารณาว่าจะสามารถปรับราคาประเมินที่ดินให้เป็นลักษณะเดียวกับอาคารชุด คือสามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกปี เพื่อให้ราคาประเมินสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และภาวะปัจจุบันให้มากที่สุด ไม่ใช่ต้องรอทุก 4 ปี พร้อมกันนี้

กรมธนารักษ์กำลังเร่งจัดทำราคาประเมินที่ดินรายแปลงทั้ง 32 ล้านแปลงทั่วประเทศให้เสร็จโดยเร็ว จากล่าสุดดำเนินการไปแล้ว 12.6 ล้านแปลง หากสามารถประเมินที่ดินรายแปลงได้ทั้งหมด จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดเก็บภาษีมรดกและภาษีที่ดิน รวมถึงจะส่งผลให้รายได้จากการทำนิติกรรมต่างๆ อาทิ ภาษี ค่าธรรมเนียมการโอน เพิ่มขึ้นประมาณ 30%

เชื่อธุรกิจอสังหาฯปรับราคา

นายอิสระ บุญยัง ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้น ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะราคาที่ดินแต่ละปีมีการปรับเพิ่มตามการพัฒนาโครงข่ายระบบรางเพิ่มขึ้น การตัดถนนเส้นใหม่ สร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ให้กับที่ดินมากขึ้น ส่วนผลกระทบต่อการซื้อขายซื้อดินคงมีไม่มากนัก เพราะปัจจุบันราคาซื้อขายที่ดินจริงสูงกว่าราคาประเมินอยู่แล้ว และมองว่าราคาประเมินที่ดินใหม่จะไม่มีผลต่อการปรับราคาขายอสังหาริมทรัพย์ เพราะราคาขายปัจจุบันอยู่ขึ้นกับราคาที่ดินที่ซื้อขายจริงและต้นทุนการก่อสร้างเป็นหลัก

"ราคาประเมินที่ดินมีวัตถุประสงค์สำคัญข้อแรกเพื่อใช้คำนวณค่าธรรมเนียมการโอนทั้งในแง่นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ราคาประเมินที่เพิ่มขึ้น นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ทำให้ท้องถิ่นจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น นำมาพัฒนาสาธารณูปโภคท้องถิ่นได้มากขึ้น ส่วนข้อสอง ใช้คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีซื้อขายเปลี่ยนมือ โดยราคาประเมินที่เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้รัฐจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินได้มากขึ้น แต่บุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากการซื้อขายที่ดินจะต้องเสียภาษีมากขึ้น" นายอิสระกล่าว

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1443409257
มติชนออนไลน์ 28 กันยายน 2558