Cr. มติชนออนไลน์ 30 พฤศจิกายน 2558
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2559 ยังเติบโตได้ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาจะช่วยกระตุ้นตลาดกลุ่มกลางและล่าง ซึ่งประเมินว่ารัฐบาลอาจจะมีการต่อระยะเวลาของมาตรการออกไปจนถึงช่วงปลายปี 2559 ด้านโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากที่ดินที่มีจำกัดและราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังมีแนวโน้มปรับปรับเพิ่มขึ้น
"ตลาดบ้านหรูใจกลางเมืองเป็นตลาดที่น่าจับตามอง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีมีผลทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติสนใจเข้ามาซื้อพักอาศัยและลงทุนมากขึ้น เนื่องจากตลาดอสังหาฯในกรุงเทพฯยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับประเทศในย่านเอเชีย อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ทำให้มีผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่เข้ามาลงทุนในตลาดนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน" นางนลินรัตน์กล่าว
นางนลินรัตน์ กล่าวว่า ปีนี้มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ เปิด 21 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท รวม 2.5 พันยูนิต โดยราคาขายคอนโดมิเนียมเฉลี่ยอยู่ที่ 2.8 แสนบาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 2.4 แสนบาทต่อตารางเมตร ส่วนบ้านเดี่ยว ราคาปรับเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 40-60 ล้านบาท จากปีก่อน 35-40 ล้านบาท อัตราการขายเฉลี่ยแต่ละโครงการประมาณ 50% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะปีนี้มีซัพพลายออกมามากกว่าปีก่อน ๆ ที่ออกมาเพียงปีละ 500 ยูนิต ส่วน ปี 2559 คาดว่าจะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ เปิดไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ มูลค่ารวมมากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท จากทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม อาทิ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการย่านชิดลม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดโครงการบนถนนวิทยุ คาดว่าจะมีราคาสูงทุบสถิติที่ระดับราคา 5 แสนบาต่อตารางเมตร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) เตรียมเปิดโครงการย่านสุขุมวิท 38 และบริษัท สยามสินธร จำกัด พัฒนย่านหลังสวน เป็นต้น ส่วนบ้านเดี่ยว อาทิ บริษัท ชาญอิสสระ จำกัด และ บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด เปิดโครงการทำเลพระราม 9 บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) เปิดโครงการทำเลซอยศูนย์วิจัย บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ยึดทำเลซอยอารีย์ เป็นต้น คาดว่าราคาขายจะปรับเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 10% ราคาขายเฉลี่คอนโดมิเนียมจะอยู่ที่กว่า 3 แสนบาทต่อตารางเมตร
"ทำเลในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ยังเน้นย่านใจกลางเมือง ตามแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก เช่น สุขุมวิท วิทยุ สีลม เป็นต้น ส่วนบ้านไฮเอนด์มีการพัฒนาในย่านพระราม9 เพราะใกล้ใจกลางเมืองและราคาที่ดินยังไม่สูงมากนัก ประมาณ 3 แสนบาทต่อตารางวา และย่านอารีย์และพหลโยธินตอนต้น เพราะราคายังไม่สูงเช่นกัน " นางนลินรัตน์กล่าว