Cr. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 8 กุมภาพันธ์ 2559
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีจำนวนหน่วยขายรอขาย 171,905 หน่วย โดยกลุ่มใหญ่ที่สุดคือห้องชุด 67,349 หน่วย หรือ 39% รองลงมา ทาวน์เฮาส์ 48,999 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 29% บ้านเดี่ยว 39,826 หน่วย หรือ 23% นอกนั้นเป็นบ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และที่ดินจัดสรรอย่างละ 6% 2% และ 1% ตามลำดับ
หากพิจารณาระดับราคา สินค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดมีราคา 1-2 ล้านบาท เป็นสินค้าราคาค่อนข้างถูกถึง 45,043 หน่วย หรือ 26% รองลงมาราคา 3-5 ล้านบาท 43,928 หน่วย (26%) ราคา 2-3 ล้านบาท 42,099 หน่วย (24%) อาจกล่าวได้ว่าจำนวนที่อยู่อาศัย 56% มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และหากพิจารณาถึงสินค้าที่มีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทมีรวมกัน 82%
เมื่อแยกแยะตามประเภทที่อยู่อาศัยและระดับราคาจะพบว่า สินค้าที่รอขายอยู่ในขณะนี้ สามารถแยกแยะได้ดังนี้
อันดับที่ 1 กลุ่มใหญ่ที่สุดก็คือห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 24,534 หน่วย หรือ 14% ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด
อันดับที่ 2 คือ ทาวน์เฮาส์ ราคา 1-2 ล้านบาท 19,208 หน่วย หรือ 11%
อันดับที่ 3 คือ ทาวน์เฮาส์ ราคา 2-3 ล้านบาท 18,290 หน่วย หรือ 11%
อันดับที่ 4 คือ บ้านเดี่ยว ราคา 3-5 ล้านบาท 17,950 หน่วย หรือ 10%
อาจกล่าวได้ว่า บ้านเดี่ยวกลุ่มที่เหลือส่วนมากมีราคา 3-10 ล้านบาท บ้านแฝดราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ราคา 1-3 ล้าน ตึกแถวราคา 3-10 ล้านบาท ห้องชุดราคา 1-3 ล้านบาท ส่วนที่ดินจัดสรร ราคา 2-3 ล้านบาท
ถึงแม้หน่วยขายเหลือจะมีถึง 171,905 หน่วย แต่คาดว่าจะขายหมดได้ในเวลาประมาณ 25 เดือน แสดงให้เห็นว่าการขายค่อนข้าง "อืด" แต่ทั้งนี้ห้องชุดจะขายหมดในเวลาเร็วกว่าคือ 17 เดือน ทาวน์เฮาส์ใช้เวลา 34 เดือน ส่วนบ้านเดี่ยวอาจต้องใช้เวลาถึง 56 เดือน ทั้งนี้พิจารณาบนสมมติฐานหากไม่มีโครงการเกิดใหม่เลย