Cr. ฐานเศรษฐกิจ 15 มีนาคม 2559
แสนสิริก้าวขึ้นชั้นบริษัทอสังหาฯระดับนานาชาติเต็มตัว เปิดตัวแฟล็กชิพคอนโดมิเนียม “ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส” ปั้นให้เป็นโครงการแลนด์มาร์ค บนถนนวิทยุ เทียบย่านฟิฟท์ อเวนิว ราคาขายเฉลี่ย 5.5 แสนบาทต่อตร.ม. “อภิชาติ” เผยซูเปอร์เพนต์เฮาส์ “เดอะวัน” ราคา 600 ล้านบาทเศรษฐีไทยซื้อแล้ว เปิดขาย
นายอภิชาต จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า “โครงการไนน์ตี้เอท ไวร์เลส (98 Wireless) ถือเป็นก้าวประวัติศาสตร์ครั้งต่อไปของแสนสิริ โดยปีนี้เราจะไปสู่นานาชาติอย่างเต็มตัว เพราะว่าโครงการนี้บริษัทได้นำเข้าพันธมิตรระดับเวิลด์คลาสมาร่วมงาน ตั้งแต่บริษัทสถาปนิกชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอย่าง DWP l Design Worldwide Partnership บริษัทที่ปรึกษา Anne Carson Design ที่ช่วยกำหนดคอนเซ็ปต์การออกแบบให้มีเอกลักษณ์ ด้วยสไตล์คลาสสิกตามแบบฉบับของราล์ฟ ลอเรนโฮม บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมโยธา ตลอดจนบริการการจัดการไลฟ์สไตล์ระดับ 5 ดาว โดยบริษัทใช้เวลาในการพัฒนากว่า 5 ปี นับตั้งแต่ซื้อที่ดินแปลงนี้เมื่อปี 2553 เพื่อให้เป็นโครงการสุดยอดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
สำหรับโครงการไนน์ตี้เอท ไวร์เลส ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 25 ชั้น และที่จอดรถใต้ดิน จำนวน 77 หน่วย ราคาขายเฉลี่ย 5.5 แสนบาทต่อตร.ม. มูลค่ารวมกว่า 8.5 พันล้านบาท โดยมีตั้งแต่ขนาด 2-4 ห้องนอน เพนต์เฮาส์ และซูเปอร์เพนต์เฮาส์ ชื่อ “เดอะวัน” ราคาประมาณ 600 ล้านบาท โดยที่ขณะนี้มีผู้สนใจซื้อแล้ว 20% เป็นลูกค้าคนไทยทั้งหมด ในจำนวนนี้รวมผู้ซื้อห้องซูเปอร์เพนต์เฮาส์ด้วย ส่วนลูกค้าต่างชาติตั้งเป้าหมายไว้ที่ 40% สำหรับการเปิดขายอย่างเป็นทางการเมื่อโครงการแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2559
“เมื่อประมาณ 6 ปีก่อนบริษัทซื้อที่ดินแปลงนี้ในราคาตารางวาละ 1.5 ล้านบาท ถือเป็นประวัติการณ์ของวงการอสังหาฯ เพราะซื้อที่ดินแพงที่สุด แต่ตอนนั้นเราก็คิดแผนเอาไว้แล้วว่าจะสร้างโครงการแฟล็กชิพคอนโดมิเนียม ที่เป็นไอคอนิก และเหนือกาลเวลา เช่นเดียวกับเมื่อ 27 ปีก่อนที่เราได้พัฒนาโครงการบ้านไข่มุก ที่หัวหินภายใต้คอนเซ็ปต์การดีไซน์ที่สวยคลาสสิกเหนือกาลเวลา ด้วยคุณภาพวัสดุที่ใช้และการดูแลโครงการหลังการขาย ปัจจุบันราคาขายบ้านไข่มุก จากราคาขายเริ่มต้นยูนิตละ 7 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น 80 ล้านบาท” นายอภิชาติกล่าว
” สำหรับลูกค้าคนไทยทำเลถนนวิทยุก็คือถนนวิทยุ การตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมในโครงการนี้ก็เพราะทำเลถนนวิทยุ เป็นถนนที่มีต้นไม้สองข้างถนนที่สวยงามเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในกรุงเทพฯ นอกจากนั้นในละแวกเดียวแวดล้อมด้วยสถานที่ชั้นนำ มีสถานทูต โรงแรมระดับ 5 ดาว อาคารสำนักงานเกรดเอ รวมถึงศูนย์การค้าชั้นนำด้วย ถือเป็นสถานที่สำหรับผู้มีฐานะ”
ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริฯ กล่าวเสริมว่า ปีนี้บริษัทวางแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียม 11 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 3.5 หมื่นล้านบาท แบ่งสัดส่วนคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม 52% , ระดับมีเดียม 34% และ affordable 14% โดยตั้งเป้ายอดพรีเซลไว้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 65% โดยที่ปีนี้จะรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยจะขยายตลาดประเทศจีนเน้น 4 เมืองใหญ่มีปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเสินเจิ้น ส่วนตลาดฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวันก็ยังบุกต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังตลาดประเทศอื่นๆ เช่นตะวันออกกลาง ยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยปีนี้ตั้งเป้าตลาดต่างชาติเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วตลาดต่างประเทศมียอดขาย 3.5 พันล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,139 วันที่ 13 – 16 มีนาคม พ.ศ. 2559