Cr. ฐานเศรษฐกิจ 14 ธันวาคม 2558
วี.เอ็ม.พี.ซี.ฟันธง อสังหาฯ ภาคตะวันออกปีหน้าสดใสแน่ อนาคตเวนิซแห่งอาเซียน เหตุมีปัจจัยหนุนรอบด้าน พร้อมแย้มแผนยังมุ่งเน้นอสังหาฯ เพื่อเช่าและขาย หวังกระจายความเสี่ยงจากการผันผวนทางเศรษฐกิจ
นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด กล่าวว่า จากปัจจัยบวกของภาคอุตสาหกรรม การลงทุน และการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มสดใส เมื่อเปรียบเทียบกับเซ็กเตอร์อื่น ๆ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2559 โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออก ทั้งระยอง-ชลบุรี จะมีการเติบโตอย่างคึกคัก โดยชลบุรีถือเป็นจังหวัดที่ถูกจัดว่า มีขนาดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ จากข้อมูลล่าสุดในพื้นที่ชลบุรี มีที่อยู่อาศัยแนวราบเหลือขายสะสมประมาณ 2.156 หมื่นหน่วย มูลค่ากว่า 6.27 หมื่นล้านบาท ส่วนปริมาณที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดเหลือขายสะสมประมาณ 2.285 หมื่นหน่วย มูลค่ากว่า 6.52 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 2559 จะมีจำนวนหน่วยมากกว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีปัจจัยหนุน อาทิ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่ รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ในด้านต่าง ๆ จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการลงทุนที่มากขึ้นในโซนตะวันออก ตลอดจนแผนการขยายท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเพิ่มศักยภาพบูรณาการรวมขนส่งทุกโหมด มุ่งเป็น ‘ฮับโลจิสติกส์’ ของอาเซียน โครงการความร่วมมือระหว่างไทย-จีน เพื่อก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร (Standard Gauge) เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือ มาบตาพุด ระยะทาง 873 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างในปี 2559 รวมถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างมอเตอร์เวย์เข้าสู่แหลมฉบัง และแผนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์ โดยการจัดสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ ในพื้นที่กว่า 65 ไร่ ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านคนต่อปี หรือ 1.5 พันคนต่อชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2559
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทยังคงเน้นทั้งตลาดเช่าและขายอสังหาริมทรัพย์ ในสัดส่วน 30:70 เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง ทั้งในช่วงที่เศรษฐกิจขาขึ้นและขาลง ซึ่งในส่วนตลาดเช่าของบริษัท จะกระจายครอบคลุมในทุก ๆ กลุ่มเป้าหมาย ทั้งระดับกลางที่เป็นนักศึกษาและคนทำงาน จนถึงกลุ่มนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติ ในส่วนของตลาดขายก็จะมุ่งเน้นเจาะตลาดระดับบน ในทำเลที่มีศักยภาพ คือเน้นทำเลติดถนนสายหลัก
สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาโครงการอาคารสูง โดยล่าสุดพัฒนาโครงการอาทาระ โฮเทล ศรีราชา ประกอบด้วยโรงแรมหรูสูง 44 ชั้น บนเนื้อที่ 12 ไร่ใจกลางเมืองศรีราชา ซึ่งออกแบบภายใต้แนวคิด Modern Oriental Style ที่ผสานแนวคิดการตกแต่งในแบบวิถีโลกตะวันออก และความทันสมัยแบบวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว มูลค่าโครงการรวมกว่า 7 พันล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างในส่วนของฐานราก คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ เพื่อรองรับชาวไทยและชาวต่างชาติได้ในปี 2561 นี้อย่างแน่นอน
นอกจากนั้นในส่วนของการพัฒนาโครงการในแนวราบ บริษัทฯ ยังคงเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยในระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ “แอสเทรา” โดยในปีหน้ามีแผนจะเปิดโครงการบ้านจัดสรร บนทำเลศักยภาพติดถนนพระราม 2 เตรียมพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยสไตล์โมเดิร์น บนเนื้อที่โครงการรวม 28 ไร่ ขณะนี้ได้ดำเนินการพัฒนาก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และบ้านตัวอย่าง คาดจะเริ่มเปิดขายประมาณต้นปี 2559
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,112 วันที่ 10 – 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558