จากการสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ตั้งแต่สี่แยกท่าพระ-สี่แยกปิ่นเกล้า โดยฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมบนถนนจรัญสนิทวงศ์ประมาณ 16 โครงการ รวม 8,580 ยูนิต โดยที่คอนโดมิเนียมโครงการแรกๆ มีเปิดขายมาตั้งแต่ช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 และเว้นช่วงไปหลายปีหลังจากที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจจนเริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในช่วงปี 2547 และค่อยๆ มีโครงการเปิดขายมากขึ้นในปี 2550 เป็นต้นมา และโครงการเริ่มมีจำนวนยูนิตมากขึ้นเรื่อยๆ คือ เดิมมีจำนวนยูนิตเฉลี่ยประมาณ 330 ยูนิตต่อโครงการ ปัจจุบันมากกว่า 1,300 ยูนิตต่อโครงการ สำหรับคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในปี 2556 - 2558 แสดงให้เห็นว่าหลังจากที่เส้นทางรถไฟฟ้าเริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้นผู้ประกอบการยิ่งมั่นใจจนกล้าที่จะเปิดขายโครงการขนาดใหญ่
สำหรับอัตราการขายเฉลี่ยของโครงการอยู่ที่ประมาณ 88% ค่อนข้างสูงเพราะว่าหลายโครงการที่เปิดขายก่อนปี 2556 ส่วนใหญ่จะขายหมดแล้ว แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะโครงการที่เปิดขายในระหว่างปี 2556 - 2558 จะพบว่ามีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 73% ก็ยังถือว่าสูงอยู่ โครงการที่อยู่รอบๆ สี่แยกปิ่นเกล้าจะมีอัตราการขายค่อนข้างสูง คือเกือบจะ 100% ส่วนโครงการที่อยู่ในช่วงกลางๆ ของถนนจรัญสนิทวงศ์ (ซอยจรัญสนิทวงศ์ 25 - คลองบางกอกน้อย หรือจรัญสนิทวงศ์ 39) จะมีอัตราการขายที่ประมาณ 88% ส่วนโครงการที่อยู่รอบๆ สี่แยกท่าพระจะมีอัตราการขายที่ประมาณ 78% เพราะมี 2 โครงการขนาดใหญ่ที่เปิดขายในช่วงปี 2557 - 2558 จึงทำให้มีอัตราการขายไม่มาก
ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 68,780 บาทต่อตร.ม. แต่ว่าราคาเฉลี่ยในแต่ละช่วงอาจจะแตกต่างกัน คือโครงการที่อยู่รอบๆ สี่แยกปิ่นเกล้าจะอยู่ที่ประมาณ 68,950 บาทต่อตร.ม. ช่วงกลางจะอยู่ที่ประมาณ 93,500 บาทต่อตร.ม. ในขณะที่โครงการรอบๆ สี่แยกท่าพระจะอยู่ที่ประมาณ 55,000 บาทต่อตร.ม. ถ้าจะพิจารณาจากโครงการที่เปิดขายในช่วงประมาณปี 2554 เป็นต้นมา จะพบว่าราคาขายปรับขึ้นไปแล้วกว่า 10% บางโครงการอาจจะปรับขึ้นไปถึง 25% หลังจากที่โครงการสร้างเสร็จแล้ว
แต่บางโครงการก็มีราคาขายที่ลดลงจากช่วงสร้างเสร็จใหม่ๆ เช่นกัน เพราะว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าจะสร้างเสร็จเมื่อเริ่มก่อสร้างอาจจะมีส่วนช่วยทำให้ราคาขายต่อปรับขึ้นรุนแรง แต่เมื่อผ่านไปสักระยะก็ลดลงสู่ราคาตามความเป็นจริง ดังนั้นราคาจึงยังไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมาก
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ คอลัมน์ Property Focus 17 กันยายน 255