Cr.ประชาชาติธุรกิจ 9 กรกฎาคม 2559
คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต
ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ... ซึ่งผ่านความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 59 โดยรัฐบาล คสช.ตั้งเป้าบังคับใช้ได้จริงภายในต้นปี 2560 หนึ่งในหลักการใหญ่เพื่อเพิ่มรายได้เข้ารัฐมีรายละเอียดที่ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์หลากประเภท ทำให้ไส้ในบางส่วนกระทบนักลงทุนคอนโดมิเนียมด้วย
ทั้งนี้ ภาษีที่ดินประเภทพาณิชยกรรม จะถูกเก็บอัตราเริ่มต้น 0.3% ของมูลค่าทรัพย์สิน หรือล้านละ 3,000 บาท ครอบคลุมตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงงาน สำนักงานให้เช่า คอมมิวนิตี้มอลล์ ร้านค้ามินิมาร์ต ฯลฯ
ประเด็นคือ ทางกระทรวงการคลังได้แจกแจงในบทความ "20 คำถาม ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" ข้อ 15 มีใจความว่าบ้านหรือห้องชุดที่นำมาปล่อยเช่า จะถูกเก็บภาษีประเภทที่ดินพาณิชยกรรมด้วย
ทำให้ส่งแรงกระเพื่อมสูงขึ้นมาทันที เพราะอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านและคอนโดฯจัดอยู่ในประเภท "ที่อยู่อาศัย" ถ้าใครที่มีบ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป รัฐกำหนดให้เสียภาษีที่ดินในอัตราเริ่มต้น 0.03% หรือล้านละ 300 บาท เห็นได้ว่าฐานภาษีเริ่มต้นแตกต่างกันถึง 10 เท่า
ต่อประเด็นนี้ "ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" นายกสมาคมอาคารชุดไทย แสดงข้อคิดเห็นว่า ไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีที่อยู่อาศัยปล่อยเช่าในอัตราพาณิชยกรรม เพราะมองอย่างเป็นห่วงว่า การตรวจสอบกรณีมีการปล่อยเช่าหรือไม่จะเกิดความยุ่งยาก ประเทศไทยยังไม่มีระเบียบกฎหมายลงทะเบียนผู้ปล่อยเช่าที่อยู่อาศัย จึงอาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ดุลพินิจสูงมากในการประเมินภาษี ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการคอร์รัปชั่นได้ในที่สุด
"เราไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่จะดูจากอะไร รายละเอียดก็หยุมหยิม เช่น บางช่วงของปีอาจไม่มีคนเช่า สมมุติทั้งปีมีผู้เช่าเดือนเดียวจะทำอย่างไร ในทางปฏิบัติมีปัญหาแน่นอน การเก็บภาษีในฐานะบ้านหลังที่สองน่าจะยุติธรรมพอแล้ว เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด"
ในขณะเดียวกัน นายกคอนโดฯยอมรับว่า แม้รัฐจัดเก็บภาษีที่ดินจากการนำที่อยู่อาศัยมาปล่อยเช่าในอัตราประเภทพาณิชยกรรมจริง ก็ถือว่ายังต่ำกว่าอัตรา "ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475" ที่จ่ายอยู่ 12.5% ของรายได้ค่าเช่าซึ่งนักลงทุนปล่อยเช่าจ่ายในปัจจุบัน ดังนั้น กระแสนักลงทุนซื้อคอนโดฯเพื่อปล่อยเช่ามองว่ายังไม่สะเทือนมากนัก
"มองภาพรวมกฎหมายผมเห็นด้วย เพราะน่าจะช่วยผลักดันให้แลนด์ลอร์ดขายที่ดินออกมา เนื่องจากที่ดินเปล่ารัฐจัดเก็บภาษีสูง หลัก ๆ คือที่ดินในเขตซีบีดีหรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ เพราะที่ดินไม่ใหญ่แต่มูลค่าสูงแตะหลักร้อยล้าน เมื่อตีเป็นเม็ดเงินภาษีที่ดินรกร้าง ต้องจ่ายหลักล้านต่อปี"