บ้าน3-5ล้านฮอตติดลม ลากผู้เล่นหน้าใหม่ลุยชิงกำลังซื้อคนชั้นกลาง

หนี้สินครัวเรือนพุ่งไม่มีผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคา 3-5 ล้าน ระบุความต้องการซื้อยังมีเหลือล้น ลากผู้เล่นหน้าใหม่รายใหญ่อย่างค่ายพฤกษาร่วมวงชิงเค้ก ตลาดกลางบน หวังกระจายความเสี่ยงหนีต้นทุนพุ่ง เช่นเดียวกับ“เอสซี แอสเสท”ที่เริ่มขยับตัวปั้นแบรนด์ใหม่ส่ง “เพฟ” ลุยชิงแชร์ตลาดนี้เป็นครั้งแรก

นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า จากการสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยในงานมหกรรมบ้านต่างๆ พบว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคาตํ่ากว่า 5 ล้านบาทมีสัดส่วนสูงกว่า 70% ของตลาดรวม แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความต้องการและกำลังซื้อในสินค้าระดับราคาดังกล่าว จึงเห็นได้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยในระดับราคาตํ่ากว่า 5 ล้านบาทมีกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯลงมาพัฒนาโครงการในระดับนี้เพิ่มมากขึ้น

“ตลาดที่อยู่อาศัยระดับ 1-3 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีผู้เล่นจำกัด เนื่องจากปัจจัยด้านต้นทุนอย่างราคาที่ดินปรับเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับข้อจำกัดในเรื่องของผังเมือง ส่งผลให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการกลาง-เล็ก หรือแม้กระทั่งผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่สามารถพัฒนาโครงการให้คุ้มต้นทุนได้ ทำให้ผู้ประกอบการขยับมาพัฒนาโครงการในตลาดระดับราคา 3-5 ล้านบาทเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดในกลุ่มนี้ขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น”นายอิสระ กล่าว

ทั้งนี้หากพิจารณาตามระดับราคาบ้านเทียบอัตราส่วนรายได้ที่ผู้บริโภคจะสามารถซื้อได้ก็จะพบว่าบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท ผู้บริโภคจะต้องมีรายได้รวมต่อครัวเรือนอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่น-1 แสนบาทซึ่งเป็นฐานรายได้ของกลุ่มคนชั้นกลางของประเทศ

อ่านต่อได้ที่ http://www.thansettakij.com/2015/08/31/9314
ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ 31 สิงหาคม 2558