ฮิต "บ้านพลังงานแสงอาทิตย์" "เสนา-ปริญสิริ-คิวเฮ้าส์" ลุยตลาด

"โซลาร์รูฟท็อป" กลายเป็นเทรนด์ธุรกิจใหม่ของผู้ประกอบการบ้านจัดสรรปีนี้ หลัง 3 บริษัททั้งรายกลาง-รายใหญ่เปิดโปรเจ็กต์ถ้วนหน้า นำเสนอลูกบ้านใช้พลังงานแสงอาทิตย์ประหยัดค่าใช้จ่าย

solar

เริ่มที่ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์เปิดตัวเป็นเจ้าแรก ร่วมทุนกับ บจ.บี.กริม เพาเวอร์ ยักษ์ใหญ่ธุรกิจพลังงาน ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน บมจ.ปริญสิริจับมือกับ บจ.มิตซูบิชิ อิเล็คทริค กันยงวัฒนา ผู้ผลิตและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จากญี่ปุ่น และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ผนึกกับ บมจ.เอสพีซีจีบิ๊กเนมธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์

"ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" กรรมการผู้จัดการ บมจ.เสนาฯกล่าวว่า ขณะนี้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้บ้านเดี่ยวบางส่วนใน 2 โครงการ คือ เสนาพาร์ค แกรนด์ รามอินทรา ราคา 6-10 ล้านบาท และเสนาวิลล์ รามอินทรา (คู้บอน) ราคา 4.1 ล้านบาท จะติดตั้งแผงโซลาร์กำลังผลิตไฟฟ้า 3.5 กิโลวัตต์ ให้กับลูกบ้านตั้งแต่ก่อสร้างโครงการ และลูกบ้านจะได้สิทธิ์รับช่วงสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาครัฐจากบริษัท ทำให้ลูกบ้านมีรายได้จากการขายไฟฟ้า 4,000 บาท/เดือน

ขณะที่ค่ายปริญสิริได้แตกบริษัทใหม่รองรับธุรกิจนี้ คือ บริษัท ปริญ เอนเนอร์จี จำกัด มี "ปริญญา โกวิทจินดาชัย" นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเป็นหัวเรือใหญ่ระบุว่า การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปของบริษัทจะเป็นการปูพรมติดทั้งโครงการ โดยบริษัทอยู่ในฐานะผู้ขอเช่าหลังคาจากลูกบ้าน และจะได้กำไรจากการขายไฟฟ้าให้รัฐ ส่วนลูกบ้านจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่าเช่าอัตราเท่ากับค่าส่วนกลาง ดังนั้น ลูกบ้านจะไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลาง ยกเว้นว่าปรับค่าส่วนกลางขึ้น ลูกบ้านก็จะต้องจ่ายเฉพาะส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมา การจ่ายค่าส่วนกลางนี้บริษัทจะจ่ายโดยตรงให้กับนิติบุคคล ทำให้หมดปัญหาการเก็บค่าส่วนกลางได้ไม่เพียงพอ

ส่วนค่ายควอลิตี้เฮ้าส์ที่ไม่ยอมตกขบวน โดย "ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์เล่าว่า เป็นการแนะนำให้ลูกค้าลงทุนติดตั้งเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าภายในบ้านเอง และตอบสนองลูกค้าที่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม

อ่านต่อได้ที่ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1441000575
​ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 2 กันยายน 2558