Cr.Poolprop.com
1. เหตุที่ทำให้สามารถยกเลิกสัญญา และริบเงินมัดจำ
ได้แก่ หากผู้เช่าออกไปโดยไม่แจ้งให้ทราบ หากผู้เช่าไม่จ่ายค่าหรือจ่ายล่าช้า หรือไม่ยอมจ่ายเบี้ยปรับ หากผู้เช่าคอนโดอยู่ไม่ครบตามสัญญาเช่า ผู้เช่าคอนโดเช่าไม่จ่ายค่าสาธารณูปโภค ค่าส่วนกลาง ผู้เช่าคอนโดทำห้องเราเสียหาย หรือสร้างความเดือดร้อนให้บุคคลอื่น เช่น ส่งเสียงดัง ทำความเดือนร้อนแต่ห้องข้างเคียง เป็นต้น
2.จ่ายค่าเช่าไม่ตรง ล่าช้ากว่ากำหนดต้องจ่ายเบี้ยปรับ
เมื่อถึงกำหนดผู้เช่าไม่จ่ายตามกำหนดต้องเสียค่าปรับเป็นวัน เช่นวันละ 200 บาทเป็นต้น ควรเขียนในสัญญาให้ชัดเจนว่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกค่าปรับได้ ถ้าคนเช่าบางคนไม่ยอมจ่ายไปเป็นเวลานาน เช่น 1-3 เดือน ควรเขียนลงไปในสัญญาว่าสามารถบอกเลิกสัญญาได้
3.ควรระบุในสัญญาหากมาการต่อเติมติดแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น หรือเจาะทุบกำแพง
กั้นห้องต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของคอนโดก่อน ต้อง ระบุไว้เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้ห้องได้รับความเสียหาย โดยต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเสียก่อนจึงจะติดแอร์ หรือเครื่องทำน้ำอุ่นได้หากย้ายออก อาจทำให้คอนโดเป็นรอย ส่วนมากหากติดกับตัวห้องแล้วไม่สามารถถอดออกได้ ถือเป็นของเจ้าของห้องทันที เนื่องจากการถอดออกจะทำให้ตัวห้องได้รับความเสียหาย ดังนั้นควรระบุให้ชัดเจนในวันทำสัญญา
4.ถ่ายรูปสภาพของในห้องก่อนให้เช่าไว้ เป็นหลักฐาน
เช่น มีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โซฟา ตู้เย็น ไมโครเวฟ หรืออื่นๆอะไรบ้าง กุญแจสำรอง บัตรจอดรถ เพื่อเตือนความจำ สำหรับเช็คของกรณีคนเช่าย้ายออก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของหาย หรือได้ของคืนไม่ครบ ให้ ทำเป็นรายการขึ้นมาแล้วแนบท้ายเข้าไปกับตัวสัญญา รวมทั้งถ่ายรูปห้องคอนโดก่อนปล่อยเช่าไว้ให้มากที่สุดเพื่อจะได้มีไว้ตรวจ สอบในภายหลังว่า สภาพก่อนและหลังปล่อยเช่าแล้วแตกต่างกันแค่ไหน
5.ระบุในสัญญาว่าผู้ให้เช่าสามารถล็อกประตูห้องได้
หากผู้เช่าทำผิดสัญญา หากระบุ ในสัญญา ว่าเช่าไม่ยอมออก หรือไม่จ่ายค่าเช่า สามารถ ล็อกประตูห้องได้ และ/หรือตัดน้ำ ตัดไฟได้เลย โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดฐานบุกรุก ถ้าเราเขียนสัญญาให้สิทธิผู้ให้เช่าชัดเจนไว้แบบนี้ เราก็สามารถเปลี่ยนกุญแจ หรือล็อคประตูได้เลย แต่ถ้าหากไม่ระบุไว้ในสัญญาไม่สามารถทำได้เนื่องจากจะผิดกฎหมายอาญา ข้อหาบุกรุกได้
6.ระบุในสัญญาใครเป็นผู้จ่ายค่าซ่อมอะไรบ้าง
ค่าซ่อมกรณีอะไรเสียใครเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่าย ระบุในสัญญาให้เรียบร้อย ค่าส่วนกลางส่วนใหญ่ผู้ให้เช่าจะรับผิดชอบ ค่า น้ำ ค่าไฟ ค่าเคเบิ้ลทีวีระบุให้้คนเช่าจ่ายเอง โดยจ่ายที่นิติบุคคลเอง หรือโอนไปพร้อมค่าเช่าให้ผู้ให้เช่าจ่ายให้แล้วแต่จะตกลงกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
7.หากห้องคอนโดเกิดเสียหายใครเป็นคนซ่อมส่วนใดบ้าง
สามารถระบุไว้ในสัญญาได้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ หากเกิดความเสียหาย เพื่อไม่ให้มีปัญหากินภายหลัง เช่น ถ้าเป็นแอร์เสียเนื่องจากอายุการใช้งาน และจำเป็นต่อการอยู่อาศัยผู้ให้เช่าต้องเป็นคอนซ่อมแซมเอง ส่วน ผู้เช่าทำเฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์พังเกิดจากการใช้งานไม่ระวังต้องซ่อมเอง หรือซื้อมาเปลี่ยนให้ใหม่ ซ่อมแซมเล็กน้อยที่สามารถทำได้ให้ผู้เช่าดูแลรักษาเสมือนของตัวเอง
8.ระบุระยะเวลาในการเช่าเท่าไหร่
ควรระบุให้ชัดเจนด้วยว่า เช่าระยะเวลาเช่าเท่าไหร่ และต่ออายุสัญญาเช่าจะทำกันอย่างไร และควรตกลงกันด้วยว่า ถ้าคนเช่าจะเลิกสัญญาเช่ากลางคัน เขาควรแจ้งเราล่วงหน้ากี่เดือน ถ้าไม่ระบุกฎหมายบอกต้องแจ้งให้ทราบ 1 เดือน อาจให้เช่าระยะสั้น 3 เดือน หรือระยะยาว 6 เดือน 1-3 ปี เป็นต้นการต่อสัญญาอาจต่อแบบอัตโนมัติในกรณีไม่บอกยกเลิกสัญญา ให้สัญญาต่อออกไปทันทีเท่าระยะเวลาเช่า และค่าเช่าเดิม หรือ เมื่อหมดสัญญาเช่า ถือว่าสัญญายกเลิกทันที ต้องทำสัญญาเช่าต่ออีกครั้ง
9.เก็บเงินประกันการเช่าก่อนให้เช่าควรเก็บให้พอ
เพื่อเป็นเงินประกันความเสียหายกรณีผู้เช่าย้ายออกแล้วเกิดความเสียหาย หักค่าซ่อมค่าทำความสะอาดแล้วจึงจะคืนเงินที่เหลือ หากผู้เช่าไม่ผิดสัญญา ไม่มีสิ่งของเสียหาย และผู้เช่าทำความสะอาดเรียบร้อยให้ผู้ให้เช่าคืนเงินมัดจำเต็มจำนวน การเก็บเงินมัดจำต้องเพียงพอต่อค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เก็บเท่าไหร่ควรดูที่ราคาห้องเช่นห้องมูลค่า 2-3 ล้าน ให้เช่า 30,000ควรเรียก เงินประกัน 2-3 เดือน และให้จ่ายล่วงหน้า 1 เดือน เพื่อประกันความเสียหายเนื่องจากห้องเราราคาหลายล้านควรเรียกให้พอ
10.กรณีที่ผู้เช่าใกล้จะออกมักจะมีปัญหาจะให้เอาเงินมัดจำมาเป็นค่าเช่า
ซึ่งบอกไว้ในสัญญาเลยว่าไม่ให้นำเงินมัดจำไม่จ่ายแทนค่าเช่าเพราะเรายังไม่รู้ว่าห้องเสียหายต้องซ่อมแซมมากน้อยเพียงได