นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปีนี้ ทำให้คาดว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะมีรายได้ที่ลดลงตามไปด้วย มากน้อยขึ้นกับแต่ละอุตสาหกรรม และยังทำให้ลูกค้าเอสเอ็มอีไม่มีการลงทุนเพิ่มในขณะนี้ ทำให้วงเงินสินเชื่อที่ธนาคารอนุมัติไว้ยังมีอยู่ค่อนข้างมาก
เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนทำให้ลูกค้ามีความต้องการใช้สินเชื่อหมุนเวียนแทนเพื่อใช้เป็นสภาพคล่องในกิจการ ขณะที่คุณภาพสินเชื่อยังไม่ค่อยดี โดยก่อนหน้านี้ธนาคารได้มีมาตรการช่วยเหลือสกัดกั้นหนี้เสียจากกลุ่มท่องเที่ยวไปเมื่อต้นปี และขณะนี้มีลูกค้าที่ประสบความยากลำบากได้เข้ามาติดต่อธนาคารเพื่อขอรับมาตรการช่วยเหลือในหลายอุตสาหกรรม
ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ในขณะนี้ ธนาคารจะเน้นปล่อยให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีที่ดินเป็นของตัวเองเป็นหลัก เนื่องจากราคาที่ดินในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้นเร็วมาก ทั้งที่มีพื้นที่เหลืออยู่มาก ซึ่งแตกต่างจากที่ดินใน กทม. จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ประกอบการท้องถิ่นจะเติบโตได้
ขณะเดียวกัน ตลาดคอนโดในต่างจังหวัดเริ่มล้นและเห็นการชะลอก่อสร้างแล้ว ทั้งเชียงใหม่ นครราชสีมา หรืออุดรธานี
สำหรับการเติบโดตของสินเชื่อเอสเอ็มอีในไตรมาสแรก ธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อ 5.4 แสนล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตที่สูงกว่าเป้าหมายตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงต้นปี
ธนาคารได้พยายามควบคุมการเติบโตให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่ตั้งไว้ ด้วยการเน้นดูแลลูกค้าเก่า และไม่ขยายสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจทำให้ความต้องการกู้เงินลดลง ช่วยบรรเทาปัญหาสินเชื่อเกินเป้าไปได้
ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้ไว้ที่ระดับ 8-9%
ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอังคารที่ 7 เมษายน 2558